วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อุ้มพระขึ้นภู

เมือเวลา 07.10 น.วันที่ 23 กรกฏาคม 2553 ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติและลูกช้าวน้าว (นักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลฯ วิทยาเขตมุกดาหาร) อุ้มพระขึ้นภู โดยมี ดร.กุลภา โภคสวัสดิ์ รักษาการแทนผู้ช่วยอธิการบดีวิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นผู้กล่าวรายงาน

โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและโครงการลูกช้าวน้าวอุ้มพระขึ้นภู (ผาเจีย) มีจุดประสงค์ที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม เป็นการปลุกจิตสำนึกให้รู้จักการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมอันดีของไทย ที่นับวันเยาวชนเริ่มจะไม่ค่อยให้ความสนใจ อีกทั้งอนาคตอันใกล้บริเวณนี้จะได้เป็นสถานที่ก่อสร้างมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร เพราะได้ข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติงบประมาณลงมาแล้วและต่อไปสถาบันแห่งนี้ก็จะเป็นจุดศูนย์รวมของนักศึกษาที่จะมาเข้าศึกษา ต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่จะรองรับนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนด้วย

















สืบเนื่องจาก ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางศิลาฤกษ์อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา ณ ภูผาเจีย บริเวณพื้นที่แห่งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งอาคารดังกล่าวได้รับงบประมาณก่อสร้างจำนวน 261 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสำรวจพื้นหินและคาดว่าบริษัทที่ชนะการประมวลราคาจะสามารถเริ่มลงมือก่อสร้างอย่างเป็นทางการประมาณเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้

สำหรับ โครงการลูกช้างน้าวปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและอุ้มพระขึ้นภู ในวันนี้ นั้น วิทยาเขตมุกดาหารได้จัดขึ้นเพื่อให้นักศึกษาใหม่และนักศึกษารุ่นพี่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของที่ตั้งของวิทยาเขตแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นมหาวิทยาลัยของชาวจังหวัดมุกดหารในอนาคต อีกทั้งได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาป่า อนุรักษ์ต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ การปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดมุกดาหาร คือ ต้นช้างน้าว นอกจากนั้น ยังเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันศาสนาประจำชาติ คือ การอุ้มพระขึ้นภูผาเจีย โดยการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อให้นักศึกษาของวิทยาเขตมุกดาหารได้ตระหนักเห็นความสำคัญของที่ตั้งอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา ณ ภูผาเจีย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พร้อมทั้งแสดงความจงรักภักดีเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

2. เพื่อให้นักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และ ประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการกิจกรรมร่วมกันในการอนุรักษ์ต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอนุรักษ์และปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดมุกดาหาร คือ ต้นช้างน้าว โดยนักศึกษาของวิทยาเขตมุกดาหารทุกคน จะถูกเรียกว่า ลูกช้างน้าว อันจะทำให้นักศึกษาทุกคน เป็นลูกหลานของชาวมุกดาหาร

3. เพื่อให้นักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และ ประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการกิจกรรมร่วมกันในการส่งเสริมพุทธศาสนา เนื่องในวันเข้าพรรษาที่จะถึงนี้

4. เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษาใหม่ของวิทยาเขตมุกดาหารในการเสริมสร้างสุขภาพ พลังกาย และพลังใจในการเริ่มต้นศึกษาใหม่ ซึ่งจะกระทำเป็นประเพณีทุกๆ ปี ต่อๆ ไป ในอนาคต

สำหรับ พระพุทธรูป อุ้มขึ้นภูในครั้งนี้ มี รายละเอียดดังนี้

พระ ปางนาคปรก ชื่อ ว่า พระพุทธมุกดานาคราช ซึ่ง เป็นพระพุทธรูปประจำวันเสาร์ เนื่องจาก สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้อนุมัติให้จัดตั้ง เป็นวิทยาเขตมุกดาหาร เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2551 อีกทั้ง เมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้นได้มีปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำที่จังหวัดมุกดาหารซึ่งเป็นสิริมงคลต่อชาวจังหวัดมุกดาหาร โดยพระพุทธรูปมีพญานาคแผ่หัว จำนวน 7 หัว จากไหล่ไปปรกพระเศียร นั้น เป็นการบ่งบอกหรือแสดงว่า นักศึกษาของวิทยาเขตมุกดาหารจะต้องร่วมกันบำรุงพระพุทธศาสนาพร้อมทั้งการเรียนรู้ด้านการศึกษา เป็นประจำทุกวัน โดยในรอบสัปดาห์ คือ 7 วัน

ทั้งนี้ หน้ากว้างขององค์พระมีขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว เป็นแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงพระเมตตาแก่พสกนิกรชาวไทย


วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พระพุทธปทุมมุกดานพรัตน์

หลักการและเหตุผล

สืบเนื่องจากที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2553 ได้มีมติเพิ่มเติมให้วิทยาเขตมุกดาหารพิจารณาจัดทำโครงการเพื่อให้เกิดความมีส่วนร่วมอันเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของและการมีส่วนร่วม ด้วยเหตุดังกล่าว วิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้จัดประชุมสัมมนาอาจารย์ เจ้าหน้าที่ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 โดยในหลักการเพื่อสอดรับกับมติของสภามหาวิทยาลัยข้างต้น โดยมีการส่วนร่วมทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ ภาครัฐจังหวัดและประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร โครงการอุ้มพระขึ้นภูผาเจีย วิทยาเขตมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จะเป็นกิจกรรมที่เป็นประเพณี สำหรับนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ของวิทยาเขตมุกดาหาร ตลอดจนประชาชนทุกภาคส่วนได้รับรู้กิจกรรมส่งเสริมพุทธศาสนาอันเป็นขนบประเพณีที่ควรจะอนุรักษ์ให้ความสำคัญสำหรับนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจะดำเนินการที่เดินอุ้มพระจากจุดเริ่มต้นตลาดอินโดจีน ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ เดินผ่านถนนไปยังพื้นที่ภูผาเจีย ทั้งนี้ จะจัดโครงการขึ้นในวันก่อนวันเข้าพรรษา นำองค์พระประดิษฐาน ณ ภูผาเจีย จนถึงวันปิดภาคเรียนในปีถัดไป แล้วนำองค์พระท่านกลับมาประดิษฐาน ณ ตลาดอินโดจีนในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม และเมื่อเปิดภาคเรียนในปีการศึกษาถัดไป วิทยาเขตมุกดาหาร ก็ดำเนินกิจกรรมโครงการเช่นเดิม ซึ่งจะทำให้กลายเป็นประเพณีอุ้มพระสำหรับนักศึกใหม่ของวิทยาเขตมุกดาหารเป็นประจำทุกปี

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้นักศึกษาของวิทยาเขตมุกดาหารได้ตระหนักเห็นความสำคัญของที่ตั้งอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา ณ ภูผาเจีย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
  2. เพื่อให้นักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และ ประชาชนในจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการกิจกรรมร่วมกันในการส่งเสริมพุทธศาสนา
  3. เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษาใหม่ของวิทยาเขตมุกดาหารในการเสริมสร้างสุขภาพ พลังกาย และพลังใจในการเริ่มต้นศึกษาใหม่

วิธีการดำเนินการโครงการ

  1. ประสานงานกับเทศบาลมุกดาหารในการขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป “พระพุทธปทุมมุกดานพรัตน์”
  2. ประสานงานสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารในการขอความอนุเคราะห์ด้านการจราจรจากบริเวณตลาดอินโดจีนถึงบริเวณภูผาเจีย (ประมาณ 6 กิโลเมตร)
  3. ประสานงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารในการขอความอนุเคราะห์น้ำดื่ม อาหาร และรถยนต์การขนส่ง
  4. ประสานงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นระดับตำบลในการขอความอนุเคราะห์ประชาชนเข้าร่วมโครงการ
  5. ประสานงานโรงพยาบาลมุกดาหารในการขอความอนุเคราะห์ด้านการพยาบาล
  6. ประสานงานด้านการประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการร่วมกับประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร และสื่อมวลชนท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร

พระพุทธรูป

พระประจำวันจันทร์ “พระพุทธปทุมมุกดานพรัตน์” ขนาด 12 นิ้ว

ที่มา วิทยาเขตมุกดาหาร

  1. เนื่องจากวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2552 วิทยาเขตมุกดาหาร ได้จัดทำโครงการ “ชาวมุกดาหารรวมใจ ปลูกต้นไม้รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” โดยต้นไม้ที่ปลูกประกอบด้วยต้นยางนาจำนวน 200 ต้น และต้นเอกมหาชัย หรือพฤกษาสวรรค์ จำนวน 200 ต้น โดยเฉพาะต้นเอกมหาชัย นอกจากเป็นไม้มงคลที่คนไทยเลือกปลูกสำหรับเป็นไม้ประดับ เป็นร่มเงา ยังใช้ประโยชน์เป็นพืชสมุนไพร และที่สำคัญ ยังหมายถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และสูงสุด (ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2448 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศรวมกิจการหอพระสมุดสามแห่ง จัดตั้งเป็น หอสมุดสำหรับพระนคร นับเป็นหอสมุดสาธารณะแห่งแรกของไทยและเป็นต้นกำเนิดของหอสมุดแห่งชาติ)
  2. เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา ณ ภูผาเจีย วิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร “เทพรัตน์คุรุปการ” ณ โรงเรียนมุกดาลัย วิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

วันและสถานที่ในการดำเนินการ

วันอาสาฬบูชาของทุกๆ ปี เป็นวันเดินขึ้นภูผาเจีย เวลา 7.00 น.

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ทำให้นักศึกษา อาจารย์และเจ้าหน้าที่ของวิทยาเขตมุกดาหารได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกันในการหล่อหลอมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหาร
  2. ทำให้เกิดความสามัคคีระหว่างวิทยาเขตมุกดาหารและภาครัฐ ภาคเอกชนในจังหวัดมุกดาหารจัดทำกิจกรรมร่วมกันส่งเสริมพุทธศาสนา
  3. ทำให้นักศึกษาของวิทยาเขตมุกดาหารมีความประทับใจต่อสถาบันและเกิดความภูมิใจ

กองทุนเพื่อพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหาร

การประชุมสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553 ได้เห็นชอบและอนุมัติให้วิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดตั้ง กองทุนพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหาร เพื่อเป็นการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งภายในจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดใกล้เคียง และคนไทยในต่างแดน ได้มีโอกาสร่วมกันสร้างสรรค์การศึกษาในจังหวัดมุกดาหารและพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงให้มีความเจริญก้าวหน้า

สืบเนื่องจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา (วิทยาเขตมุกดาหาร มหาวิทยาลัอยอุบลรราชธานี จังหวัดมุกดาหาร) เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552 นั้น นับได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นให้กับชาวจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียงที่ในอนาคตจะมีสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มเติมอันเป็นทางเลือกและให้โอกาสสำหรับนักเรียนในพื้่นที่ใกล้เคียง

อย่างไรก็ดี ในการพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหารจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งบประมาณในด้านต่างๆ ดังนั้น การที่สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้เห็นชอบและอนุมัติให้จัดตั้ง “กองทุนพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหาร” นับได้ว่าจะัเป็นการระดมเงินทุนจากภาคประชาชน ภาคเอกชน เนื่องจาก ภาคเอกชน ประชาชน สามารถได้มีส่วนร่วมในการทำบุญด้านการศึกษา และประการสำคัญคือ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สามารถนำใบเสร็จการบริจาคเงิน ไปลดหย่อนภาษีได้

ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกท่านที่ต้องการเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของจังหวัดมุกดาหาร ได้บริจาคเงิน เพื่อกองทุนดังกล่าว โดยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่ อาคารเทพรัตน์คุรุปการ (โรงเรียนมุกดาลัย) วิทยาเขตมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร หรือ บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (ออมทรัีพย์) เลขที่บัญชี 869-212640-6 ชื่อบัญชี กองทุนเพื่อพัฒนาวิทยาเขตมุกดาหาร

และหวังว่าบุญกุศลที่ท่านจะได้บริจาคเงินดังกล่าวได้ส่งเสริมกิจการงานของท่านให้เจริญรุ่งเรืองและมีความสุขอย่างมหาศาล

มนูญ ศรีวิรัตน์