(ร่าง)
โครงการนำโคกระบือกลับอีสานบ้านของเรา
หลักการและเหตุผล
สืบเนื่องจากประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีจำนวนเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนามีจำนวนมากที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติในการผลิตข้าวเพื่อหล่อเลี้ยงประชาชนชาวไทยตลอดจนส่งข้าวเลี้ยงประชาคมชาวโลก ที่ผ่านมานั้นการผลิตข้าวของชาวนาได้มีการเปลี่ยนแปลงไปโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็น การใช้เครื่องมือวิศวเกษตรกรรม อุปกรณ์ทันสมัยที่ใช้พลังงานน้ำมัน การใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นั้น ล้วนเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมทำให้เกิดผลเสียในหลายๆ ด้าน ทั้งนี้ ในอดีตของชาวนาไทยนั้นต่างใช้วิถีการทำนาโดยธรรมชาติ ใช้โคให้ในการคาดไถพื้นดิน ใช้ปุ๋ยจากมูลของโคหรือที่หาได้จากธรรมชาติ ในปัจจุบันนั้นวิถีดังกล่าวได้ค่อยๆ เลือนหาย การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการทำนาจำเป็นจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก หากชาวนารายใดไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็จะเป็นการจ้างเหมาผู้ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ เช่น การจ้างรถยนต์ปักดำต้นกล้า การจ้างรถยนต์เกี่ยวข้าว เป็นต้น ชาวนาที่ไม่มีเงินทองก็จำเป็นจะต้องกู้ยืมจากผู้ให้กู้ในระบบ (ธนาคารเกษตรและสหกรณ์) หรือผู้ให้กู้นอกระบบ ซึ่งบางฤดูกาลฝนฟ้าไม่เป็นใจชาวนาก็ต้องชอกซ้ำระกำใจเพราะได้การผลการผลิตที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้วยเหตุนี้ ถ้าเราทุกคนในประเทศไทยของเรามาช่วยกันกลับคืนวิถีชีวิตที่ดั่งเดิมของชาวนาไทยกลับคืนสุ่วิถีของธรรมชาติความพอเพียงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยให้น้อมนำไปปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนั้น โครงการนำโคกระบือกลับบ้านเรา จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการธนาคารโคกระบือของกรมปศุสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา ชาวนาเกษตรกรได้กลับคืนสู่การทำนาที่ประหยัดต้นทุนต่ำสามารถที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งจะเป็นการสร้างเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนหันมาอนุรักษณ์ควายไว้ใช้ในการเกษตรทำนาทำไร่ไถนา พร้อมไถ่ชีวิตโคกระบือสร้างความสัมพันธ์สานใยระหว่างผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ทั้งนี้ มอบให้เกษตรกรยืมเลี้ยงเพื่อการผลิต มีการติดตามผลประเมินผลการนำไปใช้เพื่อการผลิต พร้อมทั้งมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลโคกระบือในโครงการนี้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการกลับคืนสู่วิถีของธรรมชาติ โดยเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์โคกระบือไทยให้ระบือไปทั่วโลก
๒. เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้ตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรกรรมไทยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๓. เพื่อส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับชาวนาเกษตรกรเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้มีความยั่งยืนด้านการทำนา
ผู้รับผิดชอบและหน่วยงานที่รับผิดชอบ
๑. สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร
๒. กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (จังหวัดมุกดาหาร)
๓. องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และเทศบาลตำบลมุกดาหาร
๔. ชาวไทยทุกคนที่รักโคกระบือ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ทำให้เกิดการสำนึกถึงคุณประโยชน์ของโคกระบือไทยที่มีต่อเกษตรกรรมของไทย
๒. ทำให้ทุกคนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการทำนา
๓. ทำให้เกิดความเข้าใจความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถานศึกษากับเกษตรกร
๔. ทำให้เป็นการไถ่ชีวิตของโคกระบือเพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สถานที่ดำเนินการ
ณ ภูผาเจีย (มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร) ในพื้นที่จำนวนประมาณ ๕๐ ไร่
งบประมาณที่ใช้ดำเนินการ
๑. รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในการไถ่ชีวิตโคกระบือ
๒. เงินสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และ เทศบาลตำบลมุกดาหาร
๓. เงินสนับสนุนจากองค์กรอื่นๆ ที่เห็นความสำคัญของโคกระบือไทย
วิธีการดำเนินงาน
๑. สำรวจเกษตรกรที่มีความต้องการโคกระบือ และทำการลงทะเบียนด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
๒. รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือจากโรงเชือด
๓. ในกรณีที่มีจำนวนโคกระบือที่กลับคืนสู่บ้านเรามากกว่าจำนวนความต้องการของเกษตรกร จะทำโคกระบือฝึกฝนไว้ที่ ภูผาเจีย (มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร)
๔. ทำการเก็บข้อมูลจากเกษตรกรเกี่ยวกับโคกระบือที่ได้นำไปฝากเพื่อทำประโยชน์ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลภูมิศาสตร์สารสนเทศ สำหรับพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐบาล
หมายเหตุ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้จะต้องมีจุดเริ่มต้น ถึงจะสามารถเดินทางไปหาจุดอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะเป้าหมายปลายทางที่ทุกคนตั้งใจร่วมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น