ผู้เขียนขอสนับสนุนนโยบายดังกล่าว แต่ในทางปฏิบัติแล้วอาจจะเกิดปัญหาอยู่บ้าง แต่ปัญหาเราก็มีไว้ให้แก้ จังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยมากที่สุด ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ใหญ่ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐ ในกำกับของรัฐ ราชภัฏ ราชมงคล เอกชน และอื่นๆ อีกมากมาย ในทางตรงกันข้าม และเช่นเดียวกันในจังหวัดใหญ่ของแต่ละภาคก็มีหลายมหาวิทยาลัยในหนึ่งจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา พิษณุโลก สงขลา มหาสารคาม เชียงราย เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยของเราล้วนจะมีมหาวิทยาลัยประจำจังหวัดไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชมงคล อย่างไรก็ดี บางจังหวัดไม่มีมหาวิทยาลัยหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ เป็นต้น
๑. การพัฒนาเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
๒.การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว
๓. การพัฒนาการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
๔.การพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ
๕.การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ
๖.การรักษาความมั่นคง
๒. เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านวิชาการและวัฒนธรรมในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และ
๓. เป็นผู้มีจิตสาธารณะในการบริการเพื่อพัฒนาสังคมและเรียนรู้อย่างยั่งยืน
๑.ความพอประมาณในการดำเนินงานด้านพื้นที่ใช้สอย ด้านหลักสูตรการสอน (ตามความต้องการของท้องถิ่น) ด้านการบริหารจัดการ (งบประมาณ คน)
๒.ความมีเหตุผล ในหลักสูตรที่เหมาะสมกับพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและสถานการณ์โลก และ
๓.ความมีภูมิคุ้มกัน ที่จะต้องใช้ความร่วมมือและการสนับสนุนจากประชาชน ผู้ว่าราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดมุกดาหาร และ ส่วนราชการอื่นๆ
๑. การเพิ่มขีดความสามารถของบัณฑิตในการแข่งขันในเวทีนานาชาติ
๒.การพัฒนาความเข้มแข็งของสถาบันอุดมศึกษาต่อการเกิดประชาคมอาเซียน และ
๓. การส่งเสริมบทบาทของอุดมศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน
๑. นักศึกษา จากลูกหลานของชาวจังหวัดมุกดาหาร (โดยได้รับทุนการศึกษาจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. ต่างๆ) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร) และนักศึกษาจากจังหวัดใกล้เคียงที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัย เช่น อำนาจเจริญ ยโสธร เป็นต้น และ
๒. นักศึกษา จากต่างประเทศ เช่น เวียดนาม จีน ลาว โดยในเบื้องต้นอาจจะเป็นโครงการการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ผู้สอนภาษาจีน ภาษาไทย และภาษาเวียดนาม เป็นต้น
๑.โครงการศูนย์จัดการความรู้เพื่อพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร (เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา มหาราชินี) (เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓ ยุทธศาสตร์ข้อที่ ๓)
๒.โครงการศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดมุกดาหารข้อที่ ๒ และ ๓ และยุทธศาสตร์อุดมศึกษาไทยในการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘)
๓.โครงการการเปิดสอนสาขาวิชาต่างๆ ที่เน้นตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดมุกดาหารและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เช่น สาขาวิชาภาษาและการสื่อสารเพื่อพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและพลังงาน เป็นต้น
เหนือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้โครงการหนึ่งมหาวิทยาลัยหนึ่งจังหวัดมีความชัดเจนและสามารถที่จะนำไปปฏิบัติได้จริงเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศโดยใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ผู้เขียนคิดว่าจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น
๑.ประชาชนในจังหวัดเพราะผู้ปกครองจะต้องส่งเสริมให้บุตรหลานให้เข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาใกล้พื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดของตน
๒.องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกระดับไม่ว่าตจะเป็น อบจ. เทศบาล อบต. จะต้องสนับสนุนงบประมาณซึ่งอาจจะเป็นการให้ทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในท้องถิ่นของตนรวมทั้งสนับสนุนงบประมาณให้กับมหาวิทยาลัยการจัดบริการวิชาการหรือการทำวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาของท้องถิ่นโดยใช้หลักวิชาการที่ถูกต้องและเหมาะสมกับท้องถิ่นนั้นๆ
๓.หน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้ว่าราชการ ท่านหัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงต่างๆ ประจำจังหวัด จะต้องให้ความร่วมมือสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือการจัดเก็บข้อมูล การจัดทำโครงการต่างๆ ที่เป็นลักษณะที่บูรณาการร่วมกันทั้งจังหวัดในการแก้ไขปัญหา
๔.สถาบันอุดมศึกษาหลักในจังหวัด ควรจะเป็นสถาบันที่มีความพร้อมที่สุดในจังหวัดทั้งด้านกำลังคน ตั้งอยู่ในที่ตั้งของจังหวัดนั้นๆ เพื่อสะดวกต่อการติดต่อประสานการดำเนินงาน
ทั้ง ๔ ส่วนข้างต้น ผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นส่วนที่จำเป็นเป็นอย่างมากในการที่จะขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดี อาจจะมีส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้การดังกล่าวมีความสมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้นไป
ตัวอย่างเช่น โครงการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาและการสื่อสารเพื่อการค้าชายแดนของจังหวัดมุกดาหาร (ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน) โครงการดังกล่าวอาจจะมอบให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร เป็นหน่วยงานประสานดำเนินการ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร และให้ผู้ว่าราชการสั่งการจัดหาผู้เข้ารับการอบรมไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ที่สำคัญคือ การจัดอบรมดังกล่าวจะต้องมีการติดตามประเมินผล ซึ่งวิธีอาจจะให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการดำเนินการเพื่อจะได้สอดรับกับยุทธศาสตร์ที่ว่าการสร้างความเป็นพลเมืองของนิสิตนักศึกษา
สรุปเกี่ยวกับการดำเนินงาน หนึ่งจังหวัดหนึ่งมหาวิทยาลัย หรือจะเป็น หนึ่งมหาวิทยาลัยหนึ่งจังหวัด ผู้เขียนคิดว่าควรจะดำเนินการดังนี้
๑.ถามความต้องการของประชาชนผ่านจังหวัด ผ่านผู้ว่าราชการ ว่า จังหวัดต้องการจะพัฒนาอะไร (โดยอาจจะยึดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด) ต้องการให้หน่วยงานหรือสถาบันอุดมศึกษาใดเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา
๒.ถามองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อบจ. อบต. เทศบาล) ว่าจะสนับสนุนงบประมาณในส่วนใดได้บ้าง ทั้งนี้จะต้องเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่น
๓.ถามสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดว่าต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดหรือไม่ เพราะทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้นั้น ใจจะต้องมาก่อน
๔.ถามตัวเราเองว่า เราต้องการพัฒนาประเทศของเราให้น่าอยู่หรือไม่ หากถามแล้วว่าต้องการ เรามาเริ่มกันเลยตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
มนูญ ศรีวิรัตน์